ขิงน่ารู้ คู่คนไทย
คนไทยกับสมุนไพรนับว่าเป็นของคู่กัน สมุนไพรที่นับว่ายอดฮิตเลยคือ ขิง เป็นสมุนไพรที่นิยมนำมาประกอบอาหารหรือนำมา ต้มดื่มเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร และยังมีการนำมาทำเป็นยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรคตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย เนื่องจากทางแผนไทยมองว่า ขิงมีรสเผ็ดร้อน ช่วยบำรุงธาตุ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน เมื่อดื่มจะทำให้ร่างกายอบอุ่น
ขิง (Ginger) ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Zingiber officinale Roscoe มีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ gingerol, shogaol และสารอื่นๆ จึงควรเก็บเกี่ยวขิงแก่ที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป เพื่อให้ได้สารสำคัญสูงสุด
จากผลการศึกษาทางเภสัชวิทยา
การศึกษาในสัตว์ทดลองหรือในหลอดทดลอง
- ฤทธิ์ช่วยขับลม บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
- ฤทธิ์ลดการอักเสบของลำไส้ใหญ่
- ฤทธิ์แก้ท้องเสีย
- ฤทธิ์ลดการหดเกร็งของลำไส้
- ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ
การศึกษาในทางคลินิก
- ฤทธิ์บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการเมารถ/เมาเรือ หญิงมีครรภ์ ผู้ป่วยหลังจากการผ่าตัดและในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เข้ารับเคมีบำบัด
- ฤทธิ์บรรเทาอาการไมเกรน
- ฤทธิ์ลดการอักเสบในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม
ข้อควรระวัง
- ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด ห้ามรับประทานขิงในขณะที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอาการห้อเลือดหรืออาการเลือดออกได้
- ระวังในการใช้ในผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดี ควรอยู่ภายในภายใต้การดูแลของแพทย์
- ไม่แนะนำให้รับประทานในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี
อาการไม่พึงประสงค์
อาจเกิดการแสบร้อนบริเวณทางเดินอาหาร อาการระคายเคืองบริเวณปากและคอ ผู้ป่วยที่ไวต่อขิงอาจจะมีผิวหนังอักเสบ
ที่มา : สำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดปัตตานี
เรียบเรียงโดย พทป. ปุณณภา จันทร์จีรพงศ์